5 เมนูขนมไทยนุ่มๆ หวานน้อย ชวนผู้สูงอายุทำเอง เป็นงานอดิเรกในบ้าน

ขนมไทยๆ ที่คุณยายคุ้นเคยสมัยสาวๆ

การชวนคุณตาคุณยายเข้าครัวทำขนมไทยไม่เพียงสร้างความเพลิดเพลิน แต่ยังเป็น งานอดิเรกผู้สูงวัย ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพใจและกายอีกด้วย ผู้สูงอายุสามารถทานของหวานได้ หากเลือกเมนูที่ หวานน้อย และเนื้อสัมผัส นุ่ม เคี้ยวง่าย เหมาะกับฟันและการย่อยอาหาร กิจกรรมทำขนมยังเปรียบเสมือน เกมฝึกสมองสำหรับผู้สูงวัย เพราะต้องจดจำสูตรและลำดับขั้นตอน เป็นการบริหารสมองคล้ายการเล่นเกมความจำ นอกจากนี้ยังถือเป็น กิจกรรมผู้สูงอายุในบ้าน ที่ช่วยให้ท่านไม่เหงา มีส่วนร่วมกับคนในครอบครัว เกิดความภาคภูมิใจและกระตุ้นความอยากอาหารไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มทำขนม ควรเตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ให้พร้อมเพื่อลดความเสี่ยงทำร้ายตัวเอง/คนดูแล – เช่น จัดโต๊ะที่มั่นคงให้นั่งทำงาน ลดการยืนที่เสี่ยงเมื่อยหรือหกล้ม ใช้มีดและภาชนะที่ปลอดภัยต่อผู้สูงวัย ผู้ดูแลควรอยู่ใกล้ชิดในขั้นตอนใช้ไฟหรือของร้อน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ผู้สูงอายุหกล้มบ่อย หรือพลาดจับของร้อนเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเสมอ ต่อไปนี้คือ 5 เมนูขนมไทยหวานน้อย เนื้อนุ่ม ที่เหมาะจะชวนผู้สูงอายุทำกินเองที่บ้าน ทั้งอร่อยปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

1. กล้วยบวชชีหวานน้อย

เมนูคลาสสิกที่หลายคนคิดถึง ขนม กล้วยบวชชี คือการนำกล้วยน้ำว้าสุกมาต้มในน้ำกะทิหอมมัน ใส่น้ำตาลเพียงเล็กน้อย พอให้มีรสหวานอ่อนๆ และเติมเกลือนิดหน่อยช่วยตัดรส กล้วยน้ำว้าเนื้อนุ่มที่ต้มสุกจะได้สัมผัสหนึบแต่เคี้ยวง่าย เหมาะกับผู้สูงอายุที่ฟันไม่แข็งแรง แถมกล้วยยังมีใยอาหารและโพแทสเซียมสูง ช่วยในการขับถ่ายและบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจอีกด้วย ผู้สูงวัยสามารถมีส่วนร่วมโดยการปอกและหั่นกล้วยเป็นชิ้นพอดีคำ (ใช้มีดพลาสติกหรือมีดที่ไม่คมมากเพื่อความปลอดภัย) ส่วนผู้ดูแลรับหน้าที่ตั้งไฟเคี่ยวหัวกะทิกับใบเตยให้หอม ขนมกล้วยบวชชีหวานน้อยในชามกะทิ โรยหน้าด้วยหัวกะทิข้นเล็กน้อย

เมื่อได้น้ำกะทิหวานมันกำลังดีแล้วจึงใส่กล้วยต้มลงไป กล้วยบวชชีหวานน้อย ถ้วยนี้จะหอมหวานกำลังพอดี ผู้สูงวัยได้ทานของโปรดแบบไม่เลี่ยงสุขภาพ แถมภูมิใจที่ได้ลงมือทำเอง

2. ฟักทองแกงบวด / เผือกแกงบวด

นอกจากกล้วย อีกเมนูขนมไทยในตระกูล “แกงบวด” ที่ทำง่ายและดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุคือ ฟักทองแกงบวด และ เผือกแกงบวด วิธีทำคล้ายกล้วยบวชชี เพียงใช้ฟักทองหั่นชิ้นพอดีคำหรือเผือกนึ่งสุกแทนกล้วย ฟักทองมีความหวานตามธรรมชาติอยู่แล้วจึง เติมน้ำตาลเพียงนิดเดียว ก็ได้รสหวานละมุน ฟักทองเนื้อเปื่อยนุ่มเมื่อเคี่ยวในกะทิทำให้ผู้สูงอายุเคี้ยวกลืนง่าย อุดมด้วยวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ส่วนเผือกก็ให้เนื้อสัมผัสนุ่มฝืดนิดๆ มีกากใยช่วยในการขับถ่าย ทั้งสองอย่างนี้ผู้สูงวัยสามารถช่วยปอกเปลือกและหั่นได้หากมีความชำนาญ (ต้องระวังมีดลื่น ควรใช้เขียงและมีดที่ถนัดมือ) หรือจะให้ท่านช่วยคนกะทิในหม้อเบาๆ ระหว่างที่เราปรุงก็ได้ ฟักทองแกงบวด และ เผือกบวด หวานน้อยมันกำลังดี จัดเสิร์ฟอุ่นๆ เป็นของหวานยามบ่ายที่ทั้งอิ่มอร่อยและมีประโยชน์

3. เครื่องดื่มถั่วปั่น 5 สี

เมนูนี้แตกต่างจากขนมไทยดั้งเดิมเล็กน้อย แต่เป็นของหวานสุขภาพที่กำลังมาแรงและเหมาะมากกับผู้สูงอายุ นั่นคือ เครื่องดื่มถั่วปั่น 5 สี ซึ่งใช้ธัญพืชตระกูลถั่วหลากชนิดมาปั่นรวมกันจนเนียน ดื่มง่าย วัตถุดิบหลักมักประกอบด้วย ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วดำ และถั่วขาว (หรือธัญพืชอื่นๆ เช่น งาขาว งาดำ ตามชอบ) นำไปต้มให้สุกนุ่มแล้วปั่นรวมกับน้ำหรือนมสด ไม่ใส่น้ำตาลทรายขาว แต่เพิ่มความหวานอ่อนๆ ด้วยน้ำผึ้งหรืออินทผาลัมแทน เครื่องดื่มถั่วปั่นจะมีลักษณะข้นๆ คล้ายสมูทตี้ เย็นชื่นใจและอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และไฟเบอร์ เหมาะมากสำหรับผู้สูงวัยที่เคี้ยวยาก เพราะไม่ต้องเคี้ยวเลย แค่จิบก็ได้สารอาหารเต็มเปี่ยม ผู้สูงอายุสามารถช่วยหยิบตวงถั่วแต่ละชนิดใส่เครื่องปั่นตามสัดส่วนที่กำหนด ซึ่งถือเป็น กิจกรรมฝึกสมองเล็กๆ ในการจำแนกสีและชนิดถั่ว ส่วนการปั่นและเทใส่แก้วให้เป็นหน้าที่ผู้ดูแล เมนูนี้ทำเสร็จแล้วดื่มได้เลย ไม่ต้องรอนาน ผู้สูงวัยจะรู้สึกสดชื่นและภูมิใจที่ได้ทำเครื่องดื่มสุขภาพด้วยตัวเอง

4. ขนมมันสำปะหลังเชื่อมหวานน้อย

ขนมมันสำปะหลังเชื่อม เป็นอีกเมนูโบราณที่หลายบ้านคุ้นเคย เนื้อมันสำปะหลังเมื่อเชื่อมจนสุกจะนุ่มหนึบ หวานละมุน ไม่หวานจัดเหมือนขนมสมัยใหม่ แถมยังทำง่ายมาก เพียงหั่นมันสำปะหลังเป็นท่อนแช่น้ำให้หายยาง แล้วนำไปต้มเชื่อมกับน้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย เติมใบเตยเพิ่มความหอม จะราดกะทิอุ่น ๆ เพิ่มความมันก็ได้ ขั้นตอนนี้ ผู้สูงอายุ สามารถช่วยล้าง หั่นมัน ปอกเปลือก และจัดเรียงใส่หม้อได้ เป็น กิจกรรมผู้สูงอายุในบ้าน ที่ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือและสมาธิไปในตัว เนื้อมันที่เชื่อมนุ่ม ๆ กินเพลิน เคี้ยวง่าย สบายท้อง

5. เต้าส่วนถั่วเขียว

เต้าส่วนถั่วเขียว หรือขนมถั่วเขียวกวน เป็นของหวานที่หลายบ้านชอบ เพราะเนื้อเนียนนุ่ม รสชาติไม่หวานจัด ทำง่าย วัตถุดิบน้อย วิธีทำคือ แช่ถั่วเขียวเลาะเปลือกให้บานดี จากนั้นต้มให้สุกนุ่มแล้วกวนกับน้ำตาลนิดหน่อย เติมแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดเพื่อให้เนื้อข้นขึ้นเล็กน้อย ราดกะทิหอมมันตอนเสิร์ฟก็ยิ่งอร่อย ขั้นตอนทำเต้าส่วนนี้ ผู้สูงวัย สามารถช่วยล้างถั่ว ชั่งตวง และคนกวนเบา ๆ ได้ เป็น กิจกรรมพัฒนาสมองผู้สูงอายุ ช่วยให้ท่านได้เคลื่อนไหวเบา ๆ อยู่กับครอบครัว ได้รสชาติที่คุ้นเคยและยังย่อยง่ายอีกด้วย