อย่าเฉย!! อาการมือชา เท้าชา สัญญาณเตือนโรคภัย

อย่าเฉย!! อาการมือชา เท้าชา สัญญาณเตือนโรคภัย

     อาการมือชา เท้าชา หลายๆคนอาจเคยเป็นบ่อย จนไม่ได้รู้สึกสนใจและไม่คิดว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงเพราะคิดว่าเกิดขึ้นตามธรรมชาติของคนจากพฤติกรรมการนั่ง นอน หรือทำอะไรเป็นเวลานาน บางคนมีอาการเพียงชั่วครู่ บางคนมีอาการนานเลยคิดว่าไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตประจำวัน แต่อาการ “เหน็บชา” ที่เกิดขึ้นบ่อยๆนั้น อาจเป็นสัญญาณเตือนของอันตราย ที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาท ดังนั้นควรหาสาเหตุและวิธีแก้ไขอาการ ก่อนที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่างอื่นตามมา

อาการชาเป็นอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาทรับความรู้สึก

     ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนในร่างกาย แต่มักเกินขึ้นบ่อยที่นิ้ว มือ แขน เท้า และขา ส่งผลให้อวัยวะส่วนนั้นทำงานผิดปกติ ไม่สามารถรับรู้ถึงอาการเจ็บปวด แสบร้อน หรือไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นได้ อาจเกิดจากการนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่ทั่วถึง หรืออาจมีสาเหตุจากโรคบางโรคเช่น โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท งูสวัด เบาหวาน ปวดศรีษะ ไมเกรน ลมชัก หลอดเลือดสมอง เป็นต้น นอกจากนี้อาการชาปลายมือปลายเท้ายังเสี่ยง อัมพาต อีกด้วย โดยจะมีอาการชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าลามถึงสะโพก เป็นอาการชาที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะหากปล่อยไว้นานอาจเป็นโรคอัมพฤกษ์ - อัมพาตได้ ซึ่งสาเหตุมาจากกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท การได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอก็อาจเป็นสาเหตุของความเสียหายของเส้นประสาทได้เช่นกัน โดยเฉพาะการขาดวิตามิน B เพราะวิตามิน B เหล่านั้นมีความจำเป็นและสำคัญต่อเส้นประสาท หากรู้สึกชา ปวดเสียวมือและเท้า นั่นอาจแสดงว่าได้รับการบำรุงไม่เพียงพอ

การบรรเทาอาการจากโรคเส้นประสาทมีหลายวิธี

เริ่มแรกควรรับประทานอาหารที่มีวิตามิน B ที่เพียงพอ ซึ่งวิตามิน B1 B6 และ B12 เป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญต่อการบำรุงเส้นประสาท

• วิตามิน B1 พบได้ในธัญพืช ข้าวไม่ขัดสี ผลิตภัณฑ์จากถั่ว
• วิตามิน B6 พบได้ใน ปลาทูน่า ผักโขม ปวยเล้ง กล้วย
• วิตามิน B12 พบได้ใน ไข่ เนื้อสัตว์ อาหารประเภทกุ้ง ปู และผลิตภัณฑ์จากนม

ชาบ่อยแค่ไหนถึงรีบไปพบแพทย์??

     หากมีอาการชาบริเวณปลายมือปลายเท้าตั้งแต่ 2-3 วันขึ้นไปและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ออกกำลังกาย เปลี่ยนอิริยาบถระหว่างวัน หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์

     แม้ว่าอาการมือเท้าชา อาจดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะหากเป็นต่อเนื่องจะทวีความรุนแรงและเป็นสัญาณเริ่มต้นของโรคอันตราย ดังนั้น เราควรสังเกตุตัวเอง หากพบความผิดปกติจะได้รักษาได้ทันท่วงที

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พระราม2 รับดูแลผู้ป่วยพักฟื้น บางมด กรุงเทพ ดูแลผู้ป่วย บ้านพักคนชรา  โดยแพทย์อายุรกรรม พยาบาลวิชาชีพ และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง ดูบริการของเรา