หยุดความรุนแรงในบ้าน: ผู้ป่วยอัลไซเมอร์หงุดหงิดง่าย ต้องดูแลอย่างไร?

ทำอย่างไร ถ้าผู้ป่วยอัลไซเมอร์หงุดหงิดแล้วใช้ความรุนแรง?
ผู้ป่วยอัลไซเมอร์หรือภาวะสมองเสื่อมมักมีปัญหาด้านพฤติกรรมและอารมณ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออาการ หงุดหงิด โมโหง่าย และพฤติกรรมก้าวร้าว ที่อาจเกิดขึ้นโดยที่ผู้ดูแลไม่ทันตั้งตัว การเผชิญสถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้ญาติและผู้ดูแลรู้สึกตกใจและเครียด แต่อาการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโรคสมองเสื่อม ไม่ใช่ความตั้งใจของผู้ป่วยเอง การเรียนรู้แนวทางการดูแลผู้สูงอายุสมองเสื่อมเมื่อเกิดอารมณ์รุนแรงจะช่วยให้ผู้ดูแลรับมือได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทั้งการสื่อสารอย่างเหมาะสม การปรับสภาพแวดล้อม และการจัดกิจกรรมที่ช่วยลดความตึงเครียดของผู้ป่วย
สาเหตุที่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์หงุดหงิดและก้าวร้าว
โรคอัลไซเมอร์ส่งผลต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะความทรงจำและการรับรู้ ผู้ป่วยอาจ สับสนและหงุดหงิด เมื่อจำคนหรือสถานที่ไม่ได้ ทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้เอง หรือสื่อสารความต้องการของตนเองไม่ได้ ความรู้สึกสูญเสียการควบคุมเหล่านี้กระตุ้นให้อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ผู้ป่วยโมโหและก้าวร้าวได้ เช่น สิ่งกระตุ้นจากสภาพแวดล้อม (เสียงดัง คนแปลกหน้า ความวุ่นวาย) ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยตกใจหรือรำคาญ ระบบประสาทที่เสื่อมถอยทำให้ผู้ป่วยทนต่อสิ่งรบกวนได้น้อยลง อีกทั้ง ความเจ็บป่วยทางกายหรือความไม่สบายตัว (เช่น ปวด เจ็บ หรือหิว) ที่ผู้ป่วยบอกไม่ถูกก็อาจแสดงออกมาเป็นความหงุดหงิดได้ ผู้ดูแลจึงควรสังเกตว่ามีสาเหตุใดกระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมรุนแรงขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมหรือความต้องการพื้นฐานที่ไม่ได้รับการตอบสนอง
พฤติกรรมรุนแรงที่พบบ่อยในผู้ป่วยอัลไซเมอร์
ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่เกิดอารมณ์โมโหมักแสดงออกด้วย พฤติกรรมก้าวร้าว หลายรูปแบบ ทั้งการใช้วาจารุนแรงและการกระทำทางกาย ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยอาจตะโกนด่าทอ พูดจาหยาบคาย หรือกล่าวหาคนรอบข้างอย่างไม่มีเหตุผล บางรายอาจอาละวาด ทำลายข้าวของ ปาถ้วยชาม หรือทุบตีเฟอร์นิเจอร์เมื่อหงุดหงิดมากๆ ในกรณีที่รุนแรงขึ้น ผู้ป่วยอาจพยายามทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น เช่น ผลัก ดึง ทุบตี กัด หรือข่วน ซึ่งสร้างความกังวลใจแก่ผู้ดูแลอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมทางอ้อมอื่นๆ ที่สะท้อนความไม่สบายใจ เช่น เดินวุ่นวายไม่ยอมนั่งนิ่ง (เดินไปเดินมา), กระสับกระส่าย, นอนไม่หลับช่วงกลางคืน, หรือหนีออกนอกบ้าน (การเดินหนี/หลงทาง) แม้พฤติกรรมเหล่านี้จะดูน่ากลัว แต่ควรเข้าใจว่าสาเหตุเกิดจากโรค ไม่ใช่ความตั้งใจจริงของผู้ป่วย การตระหนักถึงลักษณะพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าจะช่วยให้ผู้ดูแลเตรียมรับมือได้ถูกวิธี และไม่ตอบสนองด้วยความโกรธหรือความรุนแรงกลับไป
วิธีตอบสนองเมื่อผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ดูแลควร สงบสติอารมณ์และไม่ตอบโต้ด้วยความโกรธ พยายามควบคุมสีหน้าและน้ำเสียงให้สงบ อ่อนโยน และมั่นคง แม้สถานการณ์จะตึงเครียดก็ตาม การพูดคุยควรใช้เสียงนุ่มนวล ช้าๆ ทีละประโยคสั้นๆ หลีกเลี่ยงการพูดยาวหรือสั่งหลายขั้นตอนพร้อมกัน ที่สำคัญคือ ไม่โต้เถียงหรือขัดแย้งกับผู้ป่วย แม้ผู้ป่วยจะพูดจาไม่สมเหตุสมผล ผู้ดูแลควรรับฟังด้วยความเข้าใจ พยักหน้าและกล่าวคำปลอบโยน เช่น “ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่นี่แล้ว” แทนที่จะพยายามอธิบายเหตุผลหรือบังคับให้ผู้ป่วยสงบ
ในกรณีที่ผู้ป่วยลงมือทำร้ายหรือมีแนวโน้มก้าวร้าวทางกาย ผู้ดูแลควรให้พื้นที่กับผู้ป่วยเล็กน้อยเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ อย่าเข้าประชิดตัวผู้ป่วยทันทีหากไม่จำเป็น แต่ให้เฝ้าสังเกตอยู่ใกล้ๆ ในระยะปลอดภัย พร้อมทั้งกำจัดสิ่งของอันตรายรอบตัวผู้ป่วยออกไป เช่น ของมีคม ไม้เท้า หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ล้มทับได้ พูดกับผู้ป่วยด้วยท่าทีที่มั่นใจแต่ไม่ข่มขู่ เช่น ประสานสายตาด้วยแววตาอ่อนโยน แสดงสีหน้าห่วงใย พร้อมยื่นมือให้จับเพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย หากผู้ป่วยยอมให้สัมผัส การจับมือหรือโอบบ่าเบาๆ อย่างนุ่มนวลสามารถช่วยให้ผู้ป่วยรับรู้ถึงความเข้าใจและมิตรไมตรี ลดความกลัวและความก้าวร้าวลงได้
นอกจากนี้ ผู้ดูแลควรพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ป่วยจากสิ่งที่ทำให้โกรธ เช่น หากผู้ป่วยโมโหเนื่องจากหาของไม่เจอ ให้ลองชวนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นหรือนั่งพักในมุมที่สงบกว่า หรือเสนอสิ่งที่ผู้ป่วยโปรดปราน เช่น เครื่องดื่มอุ่นๆ ขนมหรือเปิดเพลงเบาๆ ที่เขาชอบ วิธีนี้จะช่วยตัดวงจรความโมโหและปรับอารมณ์ผู้ป่วยให้เย็นลง อีกทั้งเป็นการแสดงออกว่าเราห่วงใยและอยากช่วยเหลือ ไม่ได้เป็นศัตรูกับเขา ในบางสถานการณ์การปล่อยให้ผู้ป่วยระบายความอัดอั้นออกมาบ้าง (เช่น พูดบ่นหรือน้ำตาไหล) แล้วเราค่อยปลอบใจภายหลังก็อาจดีกว่าการพยายามหยุดยั้งทันที ทั้งนี้ ความอดทนและความใจเย็นของผู้ดูแลคือกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยไม่เกิดอันตราย
การจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยและลดสิ่งกระตุ้น
สภาพแวดล้อมรอบตัวมีผลอย่างมากต่ออารมณ์ของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ผู้ดูแลควรปรับสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัยและสงบเพื่อลดโอกาสเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว เริ่มจากเก็บสิ่งของมีคมหรือวัตถุอันตรายให้พ้นสายตาและหยิบจับได้ยาก เช่น มีด กรรไกร ไม้เท้าโลหะ หรือของหนักที่สามารถใช้ขว้างปา ในห้องที่ผู้ป่วยใช้บ่อยควรจัดให้โล่ง โปร่ง ไม่มีของรกเกะกะที่ผู้ป่วยอาจสะดุดล้มหรือหยิบมาเขวี้ยงเมื่ออารมณ์เสีย หากผู้ป่วยมีแนวโน้มเดินออกนอกบ้านควรติดกลอนประตูที่ผู้ป่วยเปิดเองได้ยาก หรือติดสัญญาณเตือนที่ประตูเพื่อให้ผู้ดูแลรู้ตัวเมื่อผู้ป่วยพยายามออกไปข้างนอก
การจัดบ้านควรคำนึงถึงการลดความสับสนของผู้ป่วย เช่น ติดป้ายหรือสัญลักษณ์บอกห้องต่างๆ อย่างชัดเจน (ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน) เพื่อให้ผู้ป่วยหาได้ง่ายและไม่หงุดหงิดเมื่อนึกไม่ออกว่าห้องไหนใช้ทำอะไร ติดนาฬิกาใหญ่ที่อ่านง่ายและปฏิทินไว้ในที่ที่ผู้ป่วยมองเห็นเสมอ เพื่อช่วยเตือนความจำเรื่องวันเวลา ลดความวิตกกังวลจากการหลงลืม ผู้ดูแลควรจัดมุมพักผ่อนที่สงบ หลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและสิ่งกระตุ้นอารมณ์ เช่น เสียงโทรทัศน์ดังๆ หรือเสียงเครื่องจักร หากรู้ว่าผู้ป่วยไวต่อเสียงหรือสิ่งเร้าบางอย่าง ให้หลีกเลี่ยงหรือลดสิ่งนั้นลง เช่น เปิดวิทยุหรือทีวีเบาๆ พอดี หรือพาผู้ป่วยออกจากที่ที่มีเสียงดังเมื่อเห็นว่าเริ่มหงุดหงิด
นอกจากนี้ การรักษากิจวัตรประจำวันให้สม่ำเสมอเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงตารางเวลาหรือสภาพแวดล้อมอย่างฉับพลันอาจทำให้ผู้ป่วยสับสนและโมโหง่าย เช่น หากต้องมีการปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์หรือห้องพัก ควรทำทีละน้อยและอธิบายกับผู้ป่วยล่วงหน้า (เท่าที่เขาจะเข้าใจได้) สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและเป็นมิตรจะลดโอกาสเกิดอารมณ์ลบๆ ได้มาก
กิจกรรมลดความเครียดสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์
นอกจากการจัดการทันทีเมื่อเกิดเหตุแล้ว การดูแลในระยะยาวควรมุ่งเน้นที่การลดความเครียดสะสมและเสริมสร้างอารมณ์เชิงบวกให้ผู้ป่วย กิจกรรมบำบัดและสันทนาการต่างๆ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยระบายความอัดอั้น ลดความวิตกกังวล และป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าวได้อย่างดี ผู้ดูแลสามารถเลือกจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับความสนใจและความสามารถของผู้ป่วย ยกตัวอย่างเช่น ศิลปะบำบัด อย่างการวาดภาพ ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน หรือร้องเพลง ผู้ป่วยอัลไซเมอร์จำนวนมากเมื่อได้ทำงานศิลปะจะมีสมาธิจดจ่อและอารมณ์เย็นลง เพราะศิลปะเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้แสดงออกและผ่อนคลายจิตใจโดยไม่ต้องใช้คำพูด
นอกจากนี้ ดนตรีบำบัด ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ได้ผลดี การเปิดเพลงที่ผู้ป่วยชอบหรือเพลงเก่าในยุคที่ผู้ป่วยยังหนุ่มสาว สามารถกระตุ้นความทรงจำที่ดีและสร้างความรู้สึกสุขสงบได้ ผู้ดูแลอาจชวนผู้ป่วยปรบมือหรือขยับร่างกายตามจังหวะเพลงเบาๆ เพื่อให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วม กิจกรรมทางดนตรีช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวและภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยสมองเสื่อมได้ในหลายกรณี
การออกกำลังกายเบาๆ และงานอดิเรกง่ายๆ ในชีวิตประจำวันก็สำคัญไม่แพ้กัน กิจกรรมผู้สูงอายุในบ้านอย่างการรดน้ำต้นไม้ พับผ้า เช็ดโต๊ะ หรืองานฝีมือเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าและไม่ว่างจนฟุ้งซ่าน การได้เคลื่อนไหวร่างกายยังช่วยให้นอนหลับดี ลดอาการกระสับกระส่ายในตอนกลางคืนด้วย หากผู้ป่วยอยู่ในสถานดูแลเฉพาะทาง ควรมีกิจกรรมกลุ่มหรือสันทนาการสำหรับผู้สูงอายุในศูนย์ดูแลเป็นประจำ เช่น ออกกำลังกายหมู่ เล่นเกมฝึกสมอง ร้องเพลง ทำอาหารร่วมกัน กิจกรรมกลุ่มจะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวของผู้ป่วยและฝึกทักษะการเข้าสังคมไปพร้อมกัน สำหรับการกระตุ้นความจำ ผู้ดูแลอาจเตรียมเกมฝึกความจำผู้สูงอายุง่ายๆ เช่น เกมจับคู่ภาพเหมือน เกมตอบคำถามจากภาพเก่า หรือฝึกท่องคำง่ายๆ การเล่นเกมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอเป็นกิจกรรมพัฒนาสมองผู้สูงอายุที่ช่วยชะลอการเสื่อมของความคิดและลดความหงุดหงิดจากความหลงลืมได้
สิ่งที่สำคัญคือควรเลือกกิจกรรมให้เหมาะกับระดับอาการของผู้ป่วย ไม่ยากหรือง่ายเกินไป และควรทำด้วยบรรยากาศที่สนุกและอบอุ่น ผู้ดูแลควรให้กำลังใจและคำชมเมื่อผู้ป่วยทำกิจกรรมได้สำเร็จ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม การได้รับแรงเสริมทางบวกจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกภาคภูมิใจและอารมณ์ดีขึ้น ลดโอกาสเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวลงอย่างเห็นได้ชัด
ขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
แม้ผู้ดูแลในครอบครัวจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่บางครั้งการรับมือกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่มีอารมณ์รุนแรงอาจเกินกำลัง ญาติควรเปิดใจขอความช่วยเหลือหรือคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก เช่น แพทย์ผู้รักษา นักจิตวิทยา หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเฉพาะทางอย่าง MyLuck Nursing Home ศูนย์ของเรามีทีมบุคลากรที่ได้รับการอบรมในการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมโดยตรง มีประสบการณ์รับมือผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่มีปัญหาด้านอารมณ์และพฤติกรรมก้าวร้าวมายาวนาน เราพร้อมให้คำแนะนำวิธีสื่อสารและการจัดการผู้ป่วยเฉพาะกรณี รวมถึงมีสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อผู้ป่วยอัลไซเมอร์โดยเฉพาะ ญาติสามารถเข้ามาปรึกษาได้โดยไม่ต้องลังเล เพื่อร่วมกันหาแนวทางที่ดีที่สุดให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากท่านรู้สึกว่าต้องการผู้ช่วยเหลือเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะติดต่อมายลักษณ์ เนอร์สซิ่งโฮม – ศูนย์ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่พร้อมเดินเคียงข้างท่านในการดูแลคนที่คุณรักอย่างเต็มความสามารถ
บทความที่คุณอาจสนใจ

เนอร์สซิ่งโฮมต่างจากบ้านพักคนชราอย่างไร ?

การดูแลผู้สูงอายุที่เป็นอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม

ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุชายดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น

การดูแลการขับถ่ายของผู้ป่วยติดเตียง

5 ปัญหาสุขภาพจิตที่พบบ่อยในวัยสูงอายุ
