3 ปัจจัยสำคัญในการเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหลังผ่าตัด

3 ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหลังผ่าตัด
การเลือก ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหลังผ่าตัด ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงวัยเพิ่งผ่านการผ่าตัดและยังต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้สูงอายุในช่วงพักฟื้นมักร่างกายอ่อนแอ เคลื่อนไหวลำบาก และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือ ผู้สูงอายุหกล้มบ่อย ได้ง่าย หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ศูนย์ดูแลที่ดีย่อมช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงที่ผู้สูงวัยจะทำร้ายตัวเอง (เช่น การพลัดตกหกล้ม) หรือเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ดูแล ในบทความนี้เราจะพาไปดู 3 ปัจจัยหลัก ที่ควรพิจารณาเมื่อคุณต้องตัดสินใจเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วงพักฟื้นหลังการผ่าตัด เพื่อให้คนที่คุณรักได้รับการดูแลที่ปลอดภัยและมีคุณภาพที่สุด
1. บุคลากรผู้เชี่ยวชาญและการดูแลทางการแพทย์ครบวงจร
ปัจจัยแรกที่ต้องพิจารณาคือ ความเชี่ยวชาญของบุคลากรและบริการทางการแพทย์ ของศูนย์ดูแล ผู้สูงอายุหลังผ่าตัดมักมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น แผลผ่าตัดติดเชื้อ ลิ่มเลือดอุดตัน แผลกดทับ หรืออาการปวดรุนแรง การมีทีมแพทย์และพยาบาลวิชาชีพที่พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมงจึงเป็นสิ่งจำเป็น
- ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหลังผ่าตัด ต้องมี ทีมแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
- ผู้สูงวัยเสี่ยงต่อ ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น
- แผลผ่าตัดติดเชื้อ
- ลิ่มเลือดอุดตัน
- แผลกดทับ
- อาการปวดรุนแรง
- ศูนย์ดูแลควรมีการดูแลที่ครอบคลุม เช่น
- ตรวจเช็คสัญญาณชีพ อย่างสม่ำเสมอ
- ดูแล แผลผ่าตัด อย่างถูกวิธี
- จัดการ ยาแก้ปวด เพื่อลดความทุกข์ทรมานของผู้สูงวัย
- หากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวหรือโรคอื่นร่วมด้วย ควรเลือกศูนย์ที่มีการดูแลเฉพาะทาง เช่น
- ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
- ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต
- มีโปรแกรมกายภาพบำบัดเฉพาะด้าน
- ต้องมีมาตรการ ป้องกันแผลกดทับ โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ต้องนอนพักเป็นเวลานาน
- บุคลากรควรมีทักษะการสื่อสารและเข้าใจความต้องการของผู้สูงอายุหลังผ่าตัด
- สำหรับผู้สูงวัยที่มีภาวะ สับสนมึนงง หรือมีอาการ สมองเสื่อม ควรเลือกศูนย์ที่มีทีมที่ผ่านการฝึกอบรมด้าน ดูแลผู้สูงอายุสมองเสื่อม หรือผู้ป่วยอัลไซเมอร์
- ทีมงานที่มีประสบการณ์และเอาใจใส่ จะช่วยให้ครอบครัวมั่นใจว่า ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ถูกต้องและปลอดภัย
2. การฟื้นฟูร่างกายและกิจกรรมสันทนาการผู้สูงอายุ
หลังการผ่าตัด การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ศูนย์ดูแลที่ดีควรมีบริการด้านกายภาพบำบัดและการฟื้นฟูร่างกายโดยนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ เพื่อช่วยให้ผู้สูงวัยกลับมาเคลื่อนไหวและทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วที่สุด เช่น การฝึกเดิน การออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่นของข้อต่อ การทำกายภาพตั้งแต่ระยะแรกเริ่มจะช่วยป้องกันข้อยึดติด ลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างปอดติดเชื้อหรือภาวะกล้ามเนื้อฝ่อลีบได้ นอกจากนี้ การทำกายภาพอย่างต่อเนื่องยังเป็นการออกกำลังป้องกันผู้สูงอายุล้มซ้ำ เพราะช่วยฟื้นฟูสมดุลการทรงตัวของร่างกายผู้สูงวัยให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากด้านร่างกายแล้ว ศูนย์ที่มีโปรแกรมกิจกรรมผู้สูงอายุและสันทนาการสำหรับผู้สูงอายุในศูนย์ดูแลจะช่วยฟื้นฟูด้านจิตใจและอารมณ์ของผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย ลดความเครียด และไม่จดจ่อกับความเจ็บป่วยมากเกินไป ศูนย์บางแห่งจะมี ตารางกิจกรรมศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จัดเป็นประจำแต่ละวัน เช่น
- กิจกรรมกลุ่มผู้สูงอายุ: การร้องเพลง เล่านิทาน เล่นดนตรี หรือการออกกำลังกายหมู่อย่างโยคะผู้สูงวัย ช่วยเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและลดความเหงา
- งานอดิเรกผู้สูงวัย: ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมหรืองานฝีมือที่ชอบได้ เช่น วาดภาพ ระบายสี งานฝีมือผู้สูงวัย ประดิษฐ์ของใช้เล็ก ๆ หรือลองทำอาหารว่างง่าย ๆ อย่างการทำขนมไทยเป็นงานอดิเรก ผู้สูงอายุจะรู้สึกภูมิใจและมีคุณค่าเมื่อได้ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง
- เกมสำหรับผู้สูงอายุ: จัดให้มี เกมฝึกความจำผู้สูงอายุ หรือ เกมฝึกสมองสำหรับผู้สูงวัย เช่น เกมต่อภาพจับคู่ เกมบิงโก หรือเกมกระดานง่าย ๆ (เกมบอร์ดผู้สูงอายุ) กิจกรรมเกมเหล่านี้นอกจากจะสร้างความสนุกสนานแล้ว ยังเป็นการบริหารสมอง ชะลอการเสื่อมของความจำอีกด้วย (ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมชะลออัลไซเมอร์ทางอ้อม)
การมีกิจกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพและงานอดิเรกหลากหลายรูปแบบเช่นนี้ จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้ทั้งฟื้นฟูร่างกาย ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูจิตใจ อารมณ์ และความจำ ผู้สูงวัยจะไม่รู้สึกเบื่อหน่ายหรือหดหู่ระหว่างพักฟื้น มีเป้าหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ทำในแต่ละวัน เกิดกำลังใจที่จะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ซึ่งส่งผลดีต่อกระบวนการฟื้นตัวโดยรวมอย่างมาก
3. มาตรการความปลอดภัยและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน
ปัจจัยสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือเรื่องความปลอดภัยของสถานที่และการรับมือเหตุฉุกเฉิน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ดีต้องมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ออกแบบพื้นที่ต่าง ๆ โดยคำนึงถึงการป้องกันผู้สูงอายุหกล้มและอุบัติเหตุอื่น ๆ รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้สามารถลดความเสี่ยงการบาดเจ็บของผู้สูงวัยได้มาก
ความปลอดภัยของสถานที่ เป็นหัวใจสำคัญ ศูนย์ดูแลควรมี:
- พื้นกันลื่น และทางเดินเรียบ
- ราวจับ ในห้องน้ำ ข้างเตียง และทางเดิน
- แสงสว่างเพียงพอในทุกพื้นที่
- เตียงปรับระดับง่าย พร้อม ระบบเรียกพยาบาลฉุกเฉิน ใกล้มือผู้ป่วย
เจ้าหน้าที่ควรเฝ้าดูแลใกล้ชิด เพื่อป้องกันผู้สูงวัย พยายามลุกเอง และเสี่ยงต่อการหกล้ม
ทีมงานต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อ ตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน เช่น
- ผู้ป่วยลื่นล้ม
- อาการหอบเหนื่อยเฉียบพลัน
- ภาวะแทรกซ้อนทางการแพทย์ที่ต้องรีบส่งต่อโรงพยาบาล
สำหรับผู้สูงวัยที่มีภาวะ สมองเสื่อม หรือสับสนหลังผ่าตัด ศูนย์ควรมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น
- ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการลุกจากเตียง
- พื้นที่ที่ออกแบบให้ป้องกันการเดินพลัดหลง
- บุคลากรที่เข้าใจการปลอบโยนผู้สูงอายุเพื่อลดความเสี่ยงการทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น
การมี มาตรการป้องกันผู้สูงอายุหกล้ม และการเฝ้าดูอย่างรอบคอบ จะสร้างความมั่นใจว่าผู้สูงวัยได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยที่สุด
บทความที่คุณอาจสนใจ

สุขภาพช่องปาก ภัยเงียบที่ส่งผลร้ายต่อผู้สูงอายุ

เสริมสร้างสุขภาพจิตให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง

งานอดิเรกสำหรับผู้สูงอายุ เพิ่มคุณค่าและความสุขในการใช้ชีวิต

มายลักษณ์เนอร์สซิ่งโฮมรับสมัครพยาบาลวิชาชีพ ดูแลผู้สูงอายุ

โทษของการกินน้ำตาล กินเพลินๆ เชือดนิ่มๆ
