อันตราย! โรคปอดบวมในผู้สูงอายุ รู้ทันโรคก่อนสายเกินไป

อันตราย! โรคปอดบวมในผู้สูงอายุ รู้ทันโรคก่อนสายเกินไป

ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิด โรคปอดบวม ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป และเมื่อเป็นแล้ว มักมีอาการรุนแรง ร่างกายฟื้นตัวช้า หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงถึงชีวิต หากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที

โรคปอดบวมคืออะไร?

โรคปอดบวม (Pneumonia) คือการติดเชื้อที่ปอด ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา ทำให้ถุงลมในปอดอักเสบและมีของเหลวสะสม ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง ทำให้หายใจลำบาก มีไข้ หนาวสั่น และไอมีเสมหะ

ทำไมผู้สูงอายุถึงเสี่ยงเป็นโรคปอดบวม?

เมื่ออายุมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะเสื่อมถอยลง ทำให้ต้านทานเชื้อโรคได้น้อยลง ประกอบกับบางคนมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หรือโรคหัวใจ รวมถึงภาวะกลืนลำบาก นอนติดเตียง ไม่สามารถไอหรือขับเสมหะได้ดี ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในปอด

อาการที่ควรระวัง

• ไข้สูง หนาวสั่น หรือรู้สึกหนาวแม้ไม่ได้อยู่ในที่เย็น
• ไอมีเสมหะ หรือไอแห้งเรื้อรัง
• หายใจหอบ เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก
• เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
• ผู้สูงอายุบางรายอาจไม่มีไข้ แต่อาการจะมาในรูปแบบสับสน เดินไม่ไหว หรือหมดสติ

ผลกระทบหากไม่รักษาทันท่วงที

โรคปอดบวมในผู้สูงอายุสามารถลุกลามจนกลายเป็นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หายใจล้มเหลว หรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในรายที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือมีโรคประจำตัว

วิธีป้องกันโรคปอดบวมในผู้สูงอายุ

• ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม
• ดูแลสุขอนามัยพื้นฐาน เช่น ล้างมือบ่อย ๆ
• หลีกเลี่ยงผู้ที่มีอาการป่วย หรือแหล่งที่มีการระบาด
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
• ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อประเมินภาวะเสี่ยง
• หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที

สรุป

โรคปอดบวม อาจฟังดูธรรมดา แต่ในผู้สูงอายุกลับเป็นโรคที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีโอกาสนำไปสู่ความรุนแรงถึงชีวิตได้ หากไม่รีบวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง อย่ารอให้สายเกินไป ควรดูแลผู้สูงอายุในบ้านอย่างใกล้ชิด หมั่นสังเกตความผิดปกติ และปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการที่น่าสงสัย เพื่อป้องกันและรับมือกับโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

[ติดต่อสอบถาม]