ทำไมผู้ป่วยอัลไซเมอร์ชอบซ่อนของไว้ในรองเท้า? เหตุผลของพฤติกรรมแปลก ๆ และวิธีรับมืออย่างเข้าใจ

19 views | 17 วันที่แล้ว

ทำไมผู้ป่วยอัลไซเมอร์ชอบซ่อนของไว้ในรองเท้า? เหตุผลของพฤติกรรมแปลก ๆ และวิธีรับมืออย่างเข้าใจ

ทำไมเขาถึงชอบเก็บของซ่อนไว้ในรองเท้า? พฤติกรรมแปลก ๆ ที่มีเหตุผลในโลกของอัลไซเมอร์

ความหมายเบื้องหลังของพฤติกรรมแปลก ๆ

คุณแม่เก็บกุญแจไปซ่อนไว้ในรองเท้าอีกแล้ว!” เป็นประโยคที่หลายครอบครัวที่ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์อาจคุ้นเคย ผู้สูงอายุบางท่านชอบหยิบของใช้ไปซ่อนในที่คาดไม่ถึง เช่น ใส่เงินไว้ในรองเท้า เอารีโมตไปแช่ไว้ในตู้เย็น หรือแอบซ่อนรูปถ่ายสำคัญไว้ใต้ที่นอน การเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ เหล่านี้อาจทำให้ลูกหลานสงสัยและกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เรารัก แต่ในโลกของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ พฤติกรรมเหล่านี้มีเหตุผลรองรับ ความเข้าใจพฤติกรรมเช่นนี้จะช่วยให้เราดูแลพวกท่านด้วย ความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น ไม่ด่วนตำหนิหรือหงุดหงิดใจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยสมองเสื่อมอย่างมีความสุข

ความจำเสื่อมและการตีความผิดของผู้ป่วย

ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มักมี ความจำระยะสั้นที่ถดถอย จึงหลงลืมได้ว่าตัวเองวางของไว้ที่ใด พวกท่านอาจเผลอหยิบของไปเก็บไว้ในที่ที่ไม่ควรวาง เช่น เก็บรองเท้าไว้ในตู้เย็น หรือวางของมีค่าไว้ในที่แปลก ๆ แล้วจำไม่ได้ว่าซ่อนไว้ตรงไหน เมื่อหาของไม่เจอ ผู้ป่วยบางคนจะเกิดความคิดขึ้นมาว่า “ต้องมีคนขโมยไปแน่ ๆ” และอาจกล่าวหาลูกหลานหรือผู้ดูแลว่าแอบหยิบของของตนไป ซึ่งความคิดหวาดระแวงเช่นนี้เป็น อาการหลงผิด (delusion) อย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยสมองเสื่อม

ความรู้สึกไม่มั่นคงและการสะสมสิ่งของ

ผู้ป่วยบางคนจะมี นิสัยหวงของหรือสะสมของมากผิดปกติ เช่น เก็บของใช้ส่วนตัวไว้เต็มกระเป๋า หรือซ่อนเงินสดไว้หลายซอกมุมของบ้าน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้ป่วยรู้สึก ไม่มั่นคงกับสภาพความจำและโลกปัจจุบัน จึงพยายามจะรักษาความควบคุมบางอย่างไว้ด้วยการซ่อนหรือสะสมสิ่งของของตนเอง พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็น กลไกการปรับตัวของสมองผู้ป่วย เพื่อชดเชยความสับสนและความไม่แน่นอนที่พวกท่านกำลังเผชิญ


ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มักมีความคิดวนเวียนและความจำระยะสั้นที่ถดถอย ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมซ่อนของ

การเสื่อมของสมองและพฤติกรรมซ้ำ ๆ

สาเหตุทางสมองของพฤติกรรมการซ่อนของนั้นเกี่ยวข้องกับ การเสื่อมของสมองส่วนความจำและการตัดสินใจ ผู้ป่วยมักจะลืมบริบทของสิ่งของตรงหน้า เช่น หยิบของขึ้นมาแล้วไม่แน่ใจว่าจะเอาไปไว้ที่ไหน จึงเก็บเข้าที่ที่คิดว่าปลอดภัย พอผ่านไปไม่กี่นาทีก็ลืมไปว่าเก็บไว้ที่ใด นอกจากนี้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ยังมีระดับ ความวิตกกังวลและความหวาดระแวงสูง เนื่องจากความสับสนในสิ่งแวดล้อมรอบตัว สมองที่เสื่อมลงทำให้ไม่สามารถประมวลเหตุการณ์เหมือนคนทั่วไป เมื่อมองไม่เห็นของที่เคยวางไว้ตรงที่เดิม ก็อาจตีความไปว่ามีคนมาขโมย ทั้งหมดนี้นำไปสู่ พฤติกรรม “เก็บของให้มิดชิด” เพื่อความสบายใจของตัวเอง

ประสบการณ์ในอดีตและการย้อนวัย

ผู้ป่วยบางรายมี การย้อนวัยในความคิด คือมองโลกแบบคนในวัยหนุ่มสาวหรือวัยเด็กของตน เช่น ผู้สูงอายุที่เติบโตมาในยุคที่บ้านเมืองไม่ปลอดภัย หรือเคยผ่านประสบการณ์ข้าวยากหมากแพง อาจฝังใจเรื่องการต้อง ซ่อนเงินทองของมีค่าไว้ใกล้ตัว พอสมองเสื่อมกลับนึกถึงนิสัยเดิม ๆ จึงซ่อนของตามจุดต่าง ๆ อย่างที่เคยทำในอดีต แม้ปัจจุบันจะไม่ได้มีภัยอะไรจริง ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ความเสื่อมของสมองยังทำให้ผู้ป่วย ตัดสินใจและยับยั้งชั่งใจได้ลดลง สิ่งใดที่ใจคิดหรือกังวลก็จะแสดงออกมาทันที เช่น ถ้ากลัวว่าจะมีคนหยิบของ ก็จะรีบซ่อนของทันทีโดยไม่ทันไตร่ตรองเหตุผล

 

การดูแลด้วยความเข้าใจและไม่ตำหนิผู้ป่วยคือวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจมากขึ้น

วิธีรับมือและคำแนะนำสำหรับผู้ดูแล

ผู้ดูแลควรเข้าใจว่า ผู้ป่วยไม่ได้ซ่อนของเพื่อกวนใจหรือดื้อรั้น กับเรา แต่เป็นเพราะ โรคสมองเสื่อมที่ทำให้พฤติกรรมเขาเปลี่ยนไป คนเป็นอัลไซเมอร์มักทำอะไรแปลก ๆ ในสายตาคนปกติ แต่นั่นคือ “เรื่องปกติ” ของคนที่ความจำบกพร่องอย่างเขา พวกท่านไม่ได้ตั้งใจทำให้เราลำบากใจ เพราะถ้าตั้งใจจริงคงไม่ใช่อัลไซเมอร์แต่เป็นอีกโรคหนึ่งไปแล้ว ดังนั้นหัวใจสำคัญคือ อย่าโกรธเคืองหรือตำหนิผู้ป่วย เมื่อพบว่าของหายหรือถูกซ่อน จำไว้ว่าที่พวกท่านทำไปนั้น เกิดจากโรค ไม่ใช่นิสัยแท้จริง เราควรให้อภัยและปลอบใจผู้ป่วยเสมอ

การจัดบ้านและกิจกรรมช่วยลดพฤติกรรมซ่อนของ

  • จัดบ้านให้ เป็นระเบียบและปลอดภัย เช่น ล็อกเก็บยาและของมีคม ไม่วางสิ่งล่อตาล่อใจ เช่น เงินหรือของมีค่า
  • กำหนด ที่เก็บของใช้สำคัญให้ตายตัว เช่น แขวนกุญแจไว้ตรงจุดเดียว ติดป้ายภาพบนลิ้นชักเพื่อลดการวางของผิดที่
  • หากของหาย ให้ รับมืออย่างใจเย็น หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เช่น "เดี๋ยวเรามาหาด้วยกันนะ" และเบี่ยงเบนความสนใจหากอารมณ์รุนแรง
  • ตอบสนองความรู้สึกมากกว่าข้อเท็จจริง เช่น หากถูกกล่าวหาว่าเงินหาย ให้พูดว่า “แม่คงรู้สึกกังวลใช่ไหมที่หาเงินไม่เจอ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวลูกช่วยหา” แทนที่จะเถียงว่าไม่มีใครขโมย
  • ชวนผู้ป่วย ทำกิจกรรมง่าย ๆ ที่สร้างสมาธิ เช่น รดน้ำต้นไม้ เรียงรูปถ่ายเก่า พับผ้า
  • ส่งเสริม กิจกรรมพัฒนาสมอง เช่น เกมฝึกสมองเบา ๆ งานศิลปะตามกำลังของผู้ป่วย เพื่อเบี่ยงเบนพฤติกรรมซ่อนของและช่วยกระตุ้นสมอง
     

ทางเลือกของครอบครัวและข้อสรุป

การดูแลผู้สูงอายุสมองเสื่อม ไม่เพียงแต่ต้องใช้ความเข้าใจและความอดทน แต่ยังต้องดูแลใจของผู้ดูแลเองด้วย หากรู้สึกเหนื่อยล้าหรือเจอสถานการณ์เกินกำลัง อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ จากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทั้งผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การเข้าใจว่าพฤติกรรมแปลก ๆ ของผู้ป่วยเกิดจากโรค ไม่ใช่นิสัยส่วนตัว จะช่วยให้เรารับมือได้อย่างมีเมตตา บ้านจึงยังเป็นที่พักใจของผู้ป่วย เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจอย่างไม่มีเงื่อนไข

facebook Mylucknursinghome Line Mylucknursinghome Line Mylucknursinghome

โทรหาเรา

ประชาอุทิศ 45: 080-8160115
พระราม 5 - ปิ่นเกล้า: 080-8165672
ฉุกเฉิน: 081-657-3328

อีเมลหาเรา

ที่อยู่

Myluck Nursing home (มายลักษณ์เนอร์สซิ่งโฮม)
สาขาประชาอุทิศ 45: 16 ซ.ประชาอุทิศ 45 ถ.ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140
สาขาพระราม 5 - ปิ่นเกล้า: 99/10 สินธราซอย 3 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย นนทบุรี 11130
https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=euq6746d